นอร์เวย์ติดตั้งกระจกยักษ์บนยอดเขาสะท้อนแสงให้เมืองก้นหุบเขา

นอร์เวย์ติดตั้งกระจกบนยอดเขาสะท้อนแสงให้เมืองก้นหุบเขา หลังต้องเผชิญกับความมืดในช่วงฤดูหนาวนานถึง 6 เดือน

          เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า นอร์เวย์ได้มีการติดตั้งกระจกบานใหญ่ 3 บานบนยอดเขาเพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ให้ความสว่างแก่เมืองซึ่งอยู่ก้นหุบเขาในฤดูหนาว หลังจากที่ประชาชนกว่า 3,500 คนในเมืองนี้ต้องประสบปัญหาแสงอาทิตย์ส่องไม่ถึง เพราะถูกเทือกเขากัสทอปเพนบดบังแสงอาทิตย์เป็นเวลา 6 เดือนต่อปี ตั้งแต่เดือนกันยายน-มีนาคม

          รายงานได้ระบุว่า กระจกดังกล่าวมีขนาดแผ่นละ 17 ตารางเมตร เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ และสามารถขยับปรับตำแหน่งได้ เพื่อให้หมุนทิศทางรับแสงอาทิตย์ได้อย่างถูกต้องตลอดทั้งปี สำหรับไอเดียการติดตั้งกระจกสะท้อนแสงนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมาเป็น 100 ปีแล้ว โดยนายมาร์ติน แอนเดอร์เซ่น ศิลปินท้องถิ่น ที่ออกแบบและเรี่ยไรเงินทุนมาได้กว่า 522,700 ปอนด์ (ราว 26 ล้านบาท)

          ต่อมา นายแซม เอด วิศวกรชาวนอร์เวย์ ตระหนักถึงปัญหาว่า คนงานของคนไม่มีแสงสว่างมากพอในการทำงานในช่วงฤดูหนาว และเขาก็พบไอเดียในการสร้างกรจกดังกล่าวซึ่งยังขาดเทคโนโลยีในการสร้างจึงเริ่มมีการพัฒนา จนสร้างกระจกได้สำเร็จดังกล่าว

          อย่างไรก็ตาม นอร์เวย์ไม่ใช่ประเทศแรกที่ติดตั้งกระจกเพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ให้ชาวเมือง โดยในปี 2006 หมู่บ้านวิกาเนลลาที่อยู่ติดกับเทือกเขาแอลป์ในประเทศอิตาลี ได้ติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงใกล้ยอดเขาเพื่อฉายแสงสู่จัตุรัสของเมืองเช่นกัน
รองเท้ากีฬา